วันนี้แอดขอนำเสนอ หัวใจสำคัญที่สุดของเครื่องฟอกอากาศ ซึ่งก็คือ แผ่นกรองอากาศ (Air Filter) ซึ่งหลายท่านอาจจะสับสนว่าอะไร ยังงัย เยอะแยะ ตกลงแบบไหนถึงจะดี ลองอ่านรีวิวนี้ดูนะคะ โดยส่วนมาก เครื่องฟอกอากาศ จะมีแผ่นกรองอากาศหลักๆ อยู่ทั้งหมดประมาณ 2-3 แผ่น โดยหลักๆ แล้ว ถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นเครื่องฟอกอากาศ ก็จะมีแผ่นกรองอากาศ ดังต่อไปนี้
- แผ่นกรองอากาศชั้นต้น (Pre Filter) หรือ แผ่นกรองหยาบ หรือ แผ่นกรองชั้นแรก หรือ แผ่นกรองชั้นนอก โดยตำแหน่งของมันจะอยู่ชั้นนอกสุด มีหน้าที่เอาไว้กรอง หรือดักจับฝุ่นละอองขนาดใหญ่ ส่วนมากแผ่นกรองอากาศชนิดนี้จะสามารถนำมาล้างทำความสะอาดได้
- แผ่นกรองอากาศ HEPA (HEPA Filter) (ย่อมาจากคำว่า High Efficiency Particulate Air หรือ “High Efficiency Particulate Absorption“) เป็นแผ่นกรองอากาศประสิทธิภาพสูง ที่มีความสามารถในการกรองฝุ่นขนาดเล็กมาก ๆ (หรือฝุ่นละออง PM2.5) ได้ โดยคุณสมบัติแผ่นกรองชนิดนี้คือ กรองฝุ่นขนาดเล็กมากถึง 2.5 ไมครอน (μm) ได้ รวมไปถึงกรองเชื้อรา แบคทีเรีย มลพิษต่างๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศได้เป็นอย่างดี โดยส่วนมากแล้วทางผู้ผลิตจะไม่แนะนำให้ล้างทำความสะอาดด้วยน้ำ
- แผ่นกรองคาร์บอน (Carbon Filter หรือ Deodorizing Filter) มีหน้าที่ใช้กรองกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น กลิ่นควันบุหรี่ กลิ่นอาหาร รวมไปถึงการกรอง สารฟอลมาลดีไฮด์ สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย อย่างเช่น กลิ่นสี กลิ่นน้ำยาย้อมผอม น้ำยาทาเล็บ เป็นต้น วิธีสังเกตง่ายๆ แผ่นกรองอากาศชนิดนี้คือ จะเป็นสีเข้มๆ ดำๆ หน่อย เพราะมันมีส่วนผสมของ “ถ่าน (Carbon)” นั่นเอง
- แผ่นกรองอากาศแบบออลอินวัน – รวมทั้งหมด (All-in-One Air Filter) แผ่นกรองอากาศแบบออลอินวัน หรือ แผ่นกรองอากาศแบบรวมทั้งหมด ส่วนมากจะเห็นได้ในเครื่องฟอกอากาศที่มีราคาถูกหน่อย หรือไม่ก็เครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดของตัวเครื่องไม่ใหญ่มาก อย่างเช่น เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ (Car Air Purifier) หรือเครื่องฟอกอากาศในบ้านที่รองรับพื้นที่ได้น้อย ๆ แบบไม่เกิน 25 ตารางเมตร เป็นต้น
นอกจากนี้ฟังก์ชันเสริมสำหรับเครื่องฟอกอากาศบางชนิดก็น่าสนใจเพิ่มอีกนะคะ ลองศึกษาหาข้อมูลกันเพิ่มอีกหน่อยคะ
- หลอดไฟ UV ฆ่าเชื้อโรค (UV Sterilizing Lamp) หลอดไฟปล่อยแสง UV (สีจะออกม่วงๆ หน่อย) ถูกติดตั้งอยู่ด้านในของตัวเครื่องฟอกอากาศ ซึ่งเป็นรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ที่อยู่ในแสงแดด โดยส่วนมากแล้ว เขาจะใช้รังสี UV ประเภท UVC ที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคอย่าง เชื้อแบคทีเรีย หรือ เชื้อราที่ลอยอยู่ในอากาศ ได้เป็นอย่างดี
ข้อดี • ช่วยกำจัด และฆ่าเชื้อโรค เชื้อจุลินทรีย์ เชื้อรา หรือแม้แต่ เชื้อแบคทีเรีย ที่ลอยอยู่ในอากาศให้อีกแรง
ข้อเสีย • มีค่าบำรุงรักษาที่เพิ่มขึ้น เพราะหลอดไฟ UV ฆ่าเชื้อโรค เมื่อใช้ไปนาน ๆ หลอดอาจจะขาดได้ ต้องเปลี่ยนใหม่ และส่วนมากก็ถอดเปลี่ยนเองยากอีก และเป็นหลอดเฉพาะรุ่นของมัน ซึ่งอาจจะต้องส่งศูนย์บริการกันเลยทีเดียว
• การมองหลอดไฟ UV ที่กำลังสว่างอยู่ อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ (ในกรณีที่เครื่องฟอกอากาศไม่มีเซ็นเซอร์การเปิดฝาเครื่อง) - ตัวปล่อยประจุไฟฟ้า หรือปล่อยไออน (IONIZER) ฟังก์ชันนี้ไม่ได้มีส่วนช่วยในการกรองอากาศแต่อย่างใด แต่มันมีส่วนในการเรียกฝุ่นขนาดเล็กมาก ๆ ที่ลอยอยู่ในอากาศให้เข้ามาใกล้ๆ กับตัวเครื่องฟอกอากาศ ด้วยการ ปล่อยประจุไฟฟ้าลบ ออกไปในอากาศ ผ่านทางเข็มปล่อยประจุ และเมื่อฝุ่นลอยเข้ามาใกล้ๆ เครื่องฟอกอากาศ มันก็จะถูกพัดลมดูดอากาศ ดูดเข้าไปในเครื่องอีกที พูดง่ายๆ คือ ทำหน้าที่ “เรียกแขก” หรือ “เรียกฝุ่นเข้ามาใกล้ๆ เครื่องฟอกอากาศ” นั่นเอง
ข้อดี • เรียกฝุ่นละอองขนาดเล็ก ที่ลอยอยู่ไกล ๆ ให้ลอยเข้ามาอยู่ใกล้ๆ เครื่องฟอกอากาศ ก่อนจะถูกดูดเข้าไปอีกที
ข้อเสีย • มีค่าบำรุงรักษาที่เพิ่มขึ้น เพราะเข็มปล่อยประจุไฟฟ้า ที่อยู่ภายในตัวเครื่องอาจจะเสียได้ตามอายุการใช้งาน
ลองนำไปพิจารณาเพิ่มเติมนะคะ แล้วพบกันใหม่กับบความรู้ที่นำมาแชร์