อันตรายกรดซัลฟูริก (Sulfuric acid)

โรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่มีการนำกรดซัลฟูริกมาใช้ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็น ใช้ปรับสภาพความเป็นกรดด่างในกระบวนการผลิต ใช้ล้างทําความสะอาดชิ้นงาน ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสารประกอบเคมี ใช้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา ใช้เป็นตัวสกัดแร่ และใช้เป็นสารอิเล็กโตรไลต์ Blog นี้ เรามาศึกษาความเป็นอันตรายของกรดซัลฟูริก เพื่อสามารถใช้งานอย่างถูกต้องและปลอดภัยและถูกกฎหมายด้วยจ้า

          โรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่มีการนำกรดซัลฟูริกมาใช้ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็น ใช้ปรับสภาพความเป็นกรดด่างในกระบวนการผลิต ใช้ล้างทําความสะอาดชิ้นงาน ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสารประกอบเคมี ใช้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา ใช้เป็นตัวสกัดแร่ และใช้เป็นสารอิเล็กโตรไลต์ Blog นี้ เรามาศึกษาความเป็นอันตรายของกรดซัลฟูริก เพื่อสามารถใช้งานอย่างถูกต้องและปลอดภัยและถูกกฎหมายด้วยจ้า

          กรดซัลฟูริกมีสถานะเป็นของเหลวที่อุณหภูมิห้อง มีลักษณะเหลวข้นใส เป็นสารออกซิไดซ์ที่ดีมีฤทธิ์เป็นกรดแก่ และทําให้เกิดการกัดกร่อนได้มาก โดยทั่วไปมักเรียกว่ากรดกํามะถัน

  • CAS Number: 7664-93-9
  • ปกติมีจุดหลอมเหลวราว 4
  • มีจุดวาบไฟ น้อยกว่าหรือเท่ากับ 60 °C
  • ความเป็นพิษจากกรดซัลฟูริก เมื่อสัมผัสถูกผิวหนังโดยตรง จะทําให้ผิวหนังไหม้ เกิดการระคายเคืองอย่างรุนแรง ปวดแสบปวดร้อน เกิดเป็นแผลพุพองได้ เมื่อสัมผัสถูกดวงตา จะทําให้ดวงตาระคายเคือง ตาพร่ามัว ตาแดงจนถึงน้ำตาไหล กรอกตาไม่สะดวก กระจกตาเสียหาย อาจถึงขั้นตาบอดได้ เมื่อสูดดมไอของกรดซัลฟูริกจะทําให้เกิดการระคายเคืองระบบทางเดินหายใจอย่างรุนแรง ทําความเสียหายต่อเนื้อเยื่อเมือก อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้เมื่อกลืนกินกรดซัลฟูริกเข้าไป จะทําให้เกิดการไหม้ของเนื้อเยื่อระบบทางเดินอาหาร อาจหมดสติและเสียชีวิตได้

          ความเข้มข้นโดยน้ำหนักของกรดซัลฟูริกแบ่งตามข้อมูลการระงับเหตุฉุกเฉิน (Emergency response guide, ERG) ออกเป็น 2 ระดับ คือ

  • กรดซัลฟูริก ความเข้มข้นมากกว่า 51 % w/w มีชื่อเรียกว่า สาร-ทําปฏิกิริยากับน้ำ-กัดกร่อน มี UN no. 1830 มี ERG Guide no. 137 โดยมีอันตรายที่อาจเกิดขึ้นด้านอัคคีภัยหรือการระเบิด ได้แก่ อาจทําให้วัตถุบางชนิด เช่น ไม้ กระดาษ ผ้า และน้ำมัน เป็นต้น เกิดการลุกติดไฟได้อาจทําปฏิกิริยากับน้ำจนเกิดปฏิกิริยารุนแรงได้ อาจเกิดก๊าซไฮโดรเจนซึ่งเป็นก๊าซไวไฟเมื่อไปสัมผัสกับโลหะ รวมทั้งมีอันตรายที่อาจเกิดขึ้นด้านสุขภาพหรือสิ่งแวดล้อม ได้แก่ อาจเป็นพิษ และ/หรือ กัดกร่อน หากได้รับไอระเหยของกรดซัลฟูริกโดยทางการหายใจ การกิน การสัมผัส จนถึงอาจทําให้เกิดการบาดเจ็บอย่างรุนแรง แผลไหม้ หรือเสียชีวิตได้ รวมถึงอาจเกิดความร้อนสูง และไอกรดซัลฟูริกในอากาศมีความเข้มข้นสูงขึ้น หากทําปฏิกิริยากับน้ำ
  • กรดซัลฟูริก ความเข้มข้นไม่มากกว่า 51 % w/w มีชื่อเรียกว่า สาร-เป็นพิษ และ/หรือ-กัดกร่อน (ไม่ติดไฟ/น้ำ-ไวต่อการกระตุ้นด้วยน้ำ) มี UN no. 2796 มี ERG Guide no. 157 โดยมีอันตรายที่อาจเกิดขึ้นด้านอัคคีภัยหรือการระเบิด ได้แก่ อาจทําให้เกิดไอสารมีฤทธิ์กัดกร่อน และเป็นพิษ หากได้รับความร้อนจนเกิดไอสารมากขึ้น แม้ว่าตัวสารเองจะไม่ลุกไหม้ ไม่ติดไฟก็ตาม อาจเกิดการสะสมไอสารตามจุดที่การระบายอากาศไม่เพียงพอได้ อาจทําปฏิกิริยากับน้ำ กระทั่งเกิดปฏิกิริยาที่รุนแรงและอันตรายได้ อาจเกิดก๊าซไวไฟ คือ ก๊าซไฮโดรเจนได้ หากกรดซัลฟูริกไปสัมผัสกับโลหะจนเกิดปฏิกิริยาขึ้น รวมทั้งมีอันตรายที่อาจเกิดขึ้นด้านสุขภาพหรือสิ่งแวดล้อม ได้แก่ อาจเป็นพิษต่อการหายใจ การกิน การสัมผัสโดนผิวหนังหรืออวัยวะในร่างกาย ส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บรุนแรง แผลไหม้ หรือเสียชีวิตได้ อาจเกิดไอกรดซัลฟูริกในอากาศมีความเข้มข้นสูงมากขึ้น เมื่อได้ทําปฎิกิริยากับน้ำหรือความชื้นในอากาศ อาจเกิดก๊าซพิษที่มีฤทธิ์ระคายเคืองและกัดกร่อนได้ เมื่อได้รับความร้อน

          ความเข้มข้นโดยน้ำหนักของกรดซัลฟูริกแบ่งตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องบัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. 2556 ออกตามความในพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 กําหนดให้กรดซัลฟูริกที่มี ความเข้มข้นมากกว่า 50 % w/w  เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 การผลิต การนําเข้า การส่งออก การมีไว้ในครอบครอง ต้องได้รับอนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรมก่อนดําเนินการ ดังกล่าว

อ้างอิง :

  • กรมควบคุมมลพิษ (2551) กรดกํามะถัน Sulfuric acid พ.ศ. 2551
  • กรมโรงงานอุตสาหกรรม (2553) คู่มือการจัดการสารเคมีอันตรายสูง พ.ศ. 2553

Share:

More Posts

บริษัทตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม

บริษัทตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม ตรวจวัดสิ่งแวดล้อม

Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLineในปัจจุบันมีบริษัทสำหรับตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมเป็นจำนวนมาก ให้กับตามโรงงานอุตสาหกรรม โรงพยาบาล โรงเรียน โรงแรม ซึ่งบริษัทตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมต้องผ่านการรับรองจากกระทรวงอุตสาหกรรม จึงสามารถจัดตั้งเป็นบริษัทตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม ขึ้นมาได้ การตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม เป็นการตรวจวัดเพื่อช่วยให้สิ่งแวดล้อมมีระบบนิเวศที่ดีและได้มาตรฐาน ทั้งในด้านคุณภาพอากาศ น้ำ และกากอุตสาหกรรม โดยบริษัทตรวจวัดฯจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่มีความรู้และความชำนาญเข้ามาจัดการระบบให้มีประสิทธิภาพ หน้าที่ของบริษัทตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม มีหน้าที่ให้บริการในการเก็บตัวอย่างที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ และนำตัวอย่างไปทดสอบเพื่อทำการวิเคราะห์ทดสอบโดยห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ที่ได้รับมาตราฐาน ตลอดจนให้คำปรึกษา การติดตามมาตรการการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย มีหน้าที่ให้คำปรึกษาการติดตามมาตรการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จัดทำรายงานผลการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม

พื้นที่อับอากาศ

พื้นที่อับอากาศหรือ Confined Space คืออะไร และงานล้างพื้นที่อับอากาศมีความสำคัญและควรเตรียมการอย่างไรบ้าง

Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLineพื้นที่อับอากาศหรือ Confined Space คือ สถานที่ หรือพื้นที่ทำงาน ที่มีทางเข้าออกจำกัด และมีการระบายอากาศที่ธรรมชาติน้อย ทำให้อากาศถ่ายเทหมุนเวียนภายในอยู่ในสภาพที่ไม่ถูกสุขลักษณะและปลอดภัย ซึ่งอาจเป็นที่สะสมของสารเคมี สารพิษ สารไวไฟ รวมถึงออกซิเจนที่ไม่เพียงพอด้วย เช่น ในถ้ำ  อุโมงค์ บ่อน้ำ หลุม ห้องใต้ดิน ถังน้ำมัน ห้องนิรภัย หรือแม้แต่ภาชนะ

ขึ้นทะเบียนผู้ควบคุม

ขึ้นทะเบียนผู้ควบคุม

Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLineผู้ที่จะทำหน้าที่เป็นผู้ควบคุมมลพิษประเภทต่างๆ ต้องผ่านการสอบวัดประเมินผลในความสามารถตามมาตรฐานของกระทรวงแรงงาน จึงสามารถปฏิบัติหน้าที่ในการควบคุมดูแลระบบบำบัดมลพิษในโรงงานอุตสาหกรรมได้ ซึ่งขั้นตอนและวิธีการขึ้นทะเบียนมีดังนี้ 1. ผู้ที่ประสงค์จะขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้ควบคุมระบบบำบัดมลพิษต้องสอบผ่านการสอบมาตรฐานที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมจัดสอบขึ้น โดยมีการแบ่งประเภทของผู้ควบคุมเป็น 3 ประเภทได้แก่ -ผู้ควบคุมระบบบำบัดมลพิษอากาศ -ผู้ควบคุมระบบบำบัดมลพิษน้ำ -ผู้ควบคุมระบบบำบัดมลพิษกากอุตสาหกรรม 2. ผู้ที่สอบผ่านจะได้รับประกาศนียบัตรผู้ควบคุมระบบบำบัดมลพิษตามประเภทที่สอบผ่าน และสามารถนำใบประกาศนียบัตรไปขอขึ้นทะเบียนผู้ควบคุมระบบบำบัดมลพิษตามประเภทที่สอบผ่านที่ กรมโรงงานอุตสาหกรรม 3. ผู้สมัครสอบสามารถสมัครสอบได้มากกว่า 1 ประเภท และสามารถขอขึ้นทะเบียนผู้ควบคุมระบบบำบัดมลพิษได้มากกว่า 1

EIA Monitoring มีความสำคัญอย่างไร

Facebook iconFacebookTwitter iconTwitterLINE iconLineEIA Monitoring หรือ Environmental Impact Assessment คือ การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม เป็นการศึกษาเพื่อคาดการณ์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งในทางที่ดี และทางที่ไม่ดี อันเกิดจากการพัฒนาโครงการ หรือกิจการที่สำคัญ หรือมีขนาดใหญ่ เพื่อกำหนดมาตรการป้องกัน และแก้ไขผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม และใช้ประกอบการตัดสินใจพัฒนาหรือปรับปรุงโครงการกิจการ ผลการศึกษาต้องจัดทำเป็นเอกสาร เรียกว่ารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โรงงานประเภทที่เข้าข่ายการจัดทำ EIA ตามที่กฎหมายกำหนดต้องจัดทำรายงาน Monitor

Send Us A Message

Free Environmental Law Update

อัพเดทกฎหมายสิ่งแวดล้อม ฟรี!

รับสิทธิ์ง่ายๆ เพียงกรอก Email ของคุณด้านล่าง

เราจะส่งอัพเดทกฎหมายใหม่ที่ประกาศในราชกิจจา ประจำเดือน โดยจะคัดเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับด้านสิ่งแวดล้อม อาชีวอนามัย และความปลอดภัย เพื่อให้ท่านสะดวกในการนำไปประเมินความสอดคล้องในองค์กรของท่านต่อไป

Sign up for free

Malcare WordPress Security